สังคมสมัยนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน คนรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ อารมณ์เพียงชั่ววูบอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด และทำลายชีวิตของคนอื่นได้ เหมือนกับกรณีของ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ที่ความรักแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น ก่อเหตุบุกยิง นางสาว ปวีณา หรือสปาย และนาย อนันตชัย หรือฟอสเพื่อนสนิทจนเสียชีวิต ที่บริเวณลานจอดรถวัดเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี
ภาพประกอบ thairath.co.th
ล่าสุดหลังจากถูกควบคุมตัว และทางการกัมพูชาได้ส่งตัวเสี่ยอ้วนกลับมาไทยเพื่อดำเนินคดี เสี่ยอ้วนได้ให้การกับตำรวจและผู้สื่อข่าว ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่ญาติของน้องสปาย ที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ชนิดที่เป็นหนังคนละม้วนเลยก็ว่าได้ จะเป็นอย่างไรตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ
ภาพประกอบ thairath.co.th
ก่อนหน้านี้ญาติของน้องสปายได้ให้ข้อมูลว่า ปมการฆ่าน่าจะมาจากการหึงหวง และเคยได้รับเงินจากเสี่ยอ้วนจริง เป็นจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้นำไปซื้อรถ แต่ไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ เพราะน้องสปายบอกว่าไม่ได้รักเสี่ยอ้วน ตอนแรกตั้งใจจะปฏิเสธแต่เสี่ยอ้วนยืนยันไม่รับคืน ก่อนมาเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น
ภาพประกอบ รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพประกอบ thairath.co.th
ในขณะที่เสี่ยอ้วนเปิดใจ ว่าตนเองก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งฉนวนเหตุเกิดจากความแค้น ที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปให้กว่า 7 ล้านบาท ซึ่งตกลงกันว่าให้เป็นค่าสินสอด ซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่สุดท้ายกลับไม่ทำตามข้อตกลง และเกิดเป็นความแค้น ตั้งใจจะแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ต่อมาจึงคิดฆ่าน้องสปายและครอบครัวแต่ไม่สำเร็จ ฆ่าได้เพียงน้องสปายและน้องฟอสเท่านั้น
ภาพประกอบ thairath.co.th
หลังจากนั้นเมื่อสอบถามไปยังนางวันเพ็ญ แม่ของน้องสปาย เกี่ยวกับกรณียอดเงินที่ได้รับมาจากเสี่ยอ้วน เจ้าตัวยังคงยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง เป็นการให้ด้วยความเสน่หา และได้รับเงินโอนมาเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ที่ให้นำไปซื้อรถ และหากจะเรียกร้องคืนก็คงไม่มีจะคืนให้ หวังว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จะดำเนินคดีห้ถึงที่สุด จิตใจของครอบครัวบอบช้ำมาก วอนสังคมอย่าปักใจเชื่อฆาตรกร เพราะคนตายพูดอะไรไม่ได้ เชื่อว่าความจริงจะปรากฎในไม่ช้า
ความจริงจะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอสืบจากพยานหลักฐานกันต่อไป สุดท้ายอยากให้เหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นนี้ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่า แรงรัก และแรงแค้น หากไม่รู้จักควบคุมให้ได้ สุดท้ายอาจจะกลายเป็นเรื่องเศร้าได้ค่ะ