ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งความจาก นางอัญชลี วงษ์จันทร์ อายุ 43 ปี อาชีพขายปลีกไอศกรีม และ กนายประสงค์ชัย มากบำรุง อายุ 69 ปี พ่อค้าขายมะพร้าวในตลาด กรณีเงินในบัญชีธนาคารชื่อดัง เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ หายไปอย่างปริศนารวมทั้งสิ้นเกือบ 1.3 ล้านบาท
นายประสงค์ชัย ได้เปิดเผยว่าเงินหายจากบัญชีไป 672,191 บาท ทำให้เหลือเงินอยู่แค่ 32,000 บาท ส่วนนางอัญชลี เงินในบัญชีธนาคารเดียวกัน หายไป 609,092 บาท ทำให้เหลือติดบัญชีแค่เพียง 30,000 บาท ทั้งคู่ยืนยันว่าไม่เคยกดเงินมาใช้ แถมทางแบงก์ตรวจแล้วว่าเงินหายไปจริง แต่ผ่านไป 4 เดือน กลับเงียบกริบ เงินยังไม่ถูกนำกลับมาใส่ในบัญชีเช่นเดิม
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ต.ค. สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและสืบสวน คาดว่าน่าจะเป็นพนักงานธนาคาร ที่ก่อเหตุทุจริตแอบโอนเงินในบัญชีของลูกค้า ใช้วิธีการจัดทำใบเบิกเงินขึ้นมาเอง ก่อนจะเบิกเงินจากบัญชีของลูกค้าจนเงินหายไปดังกล่าว ซึ่งนอกจากผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ข้างต้นแล้ว ล่าสุดก็มีเหยื่อเพิ่มเป็นรายที่ 3 คือ นายเป็งเฮง แซ่จิว อายุ 87 ปี เงินในบัญชีถูกโกงไป 500,000 บาท รวม 3 ราย เสียหายไปร่วม 1.8 ล้านบาท โดยพนักงานธนาคารที่โอนถ่ายเงินไปเป็นผู้หญิง ทราบว่าตอนนี้ได้หนีไปแล้ว ซึ่งทางธนาคารต้องมาแจ้งความเพื่อเอาผิดตามกฏหมาย
ทั้งนี้ ล่าสุด สำนักงานใหญ่ของธนาคาร ได้อนุมัติคืนเงินให้กับลูกค้าแล้ว โดนจะคืนเงินพ่อค้าขายมะพร้าวสด และแม่ค้าขายไอศกรีมโบราณ ส่วนอีกรายขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน รวมถึงได้แจ้งให้ทางสาขาเข้าแจ้งความเอาผิดกับพนักงานธนาคารสาวผู้ก่อเหตุแล้ว