อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทยแล้ว ดังนั้น ในโอกาสนี้ PlazaThai จึงขอเชิญชวนเพื่อนๆ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ ทำพิธีล้างเท้าขอขมาพ่อแม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ทั้งนี้ สำหรับใครที่ไม่เคยทราบความสำคัญของพิธีกรรมรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ รวมไปถึงการล้างเท้าขอขมาพ่อแม่ วันนี้ PlazaThai ได้รวบรวมความหมาย ความสำคัญ รวมไปถึงขั้นตอนและวิธีปฏิบัติ มาฝากกัน ดังนี้!!
“พิธีรดน้ำดำหัว” นั้น ว่ากันว่า เป็นพิธีโบราณมาจากทางเหนือ โดยคำว่า “รดน้ำดำหัว” เป็นคำพูดของชาวเหนือที่จะไปรดน้ำขอขมาและขอพรจากผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งในอดีตนั้นการรดน้ำคือ การอาบน้ำจริงๆ ส่วนการดำหัวก็คือการสระผมให้ผู้ใหญ่นั่นเอง โดยจะใช้น้ำส้มป่อยหรือน้ำมะกรูดในการสระผม
การรดน้ำดำหัวไม่ได้เป็นเพียงการชำระสิ่งไม่ดีออกไปเท่านั้น แต่ยังมีความหมายดีๆ แฝงอยู่ นั่นคือ เป็นการแสดงความเคารพต่อบิดา มารดา ผู้ใหญ่ หรือผู้มีพระคุณ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของผู้น้อย และเพื่อขอโทษขออภัยในปีที่ผ่านมา ที่ผู้น้อยอาจจะเคยล่วงเกินผู้ใหญ่ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือว่าลับหลังก็ตาม รวมถึงเป็นการขอพรจากผู้อาวุโสเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองตลอดปีอีกด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียมไปในการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
1. น้ำอบไทย น้ำหอม หรือน้ำส้มป่อย เพื่อนำไปผสมกับน้ำที่จะนำไปรดน้ำผู้ใหญ่
2. ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ หรือดอกไม้อื่นๆ ที่ปลูกอยู่ในบ้านก็ได้
3. เตรียมขันเงินหรือขันทองเหลือง พานข้าวตอก ดอกไม้ และธูปเทียน
4. เตรียมผ้าตัดเสื้อ ผ้านุ่ง ผ้าห่มผืนใหม่ หรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมอบให้แก่ผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ไทย
สำหรับวิธีการรดน้ำดำหัว ขอพาไปทำความรู้จักกับวิธีแบบโบราณกันก่อน ซึ่งเป็นพิธีกรรมในแบบของสงกรานต์ล้านนา โดยสามารถทำได้ 3 แบบ คือ
แบบที่หนึ่ง ดำหัวตนเอง : เป็นพิธีเสกน้ำส้มป่อยด้วยคำที่เป็นสิริมงคล เช่น “สัพพทุกขา สัพพภยา สัพพโรคาวินาสันตุ” แล้วใช้น้ำส้มป่อยลูบศีรษะ เพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไป
แบบที่สอง ดำหัวผู้น้อย เช่น ภรรยา บุตร หลาน : เป็นพิธีกรรมต่อเนื่องจากแบบแรก คือ ใช้น้ำส้มป่อยลูบศีรษะภรรยา บุตร หลาน หลังจากดำหัวตนเอง หรือการที่ตนเองรับน้ำส้มป่อย (แบบที่สาม) มาลูบศีรษะตนเองเสร็จแล้วสลัดใส่ศีรษะ หรือลูบศีรษะผู้ที่มาดำหัวตนเอง
แบบที่สาม ดำหัวผู้ใหญ่ เช่น บิดา มารดา ครู อาจารย์ พระเถระ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น : กรณีนี้อาจไปดำหัวด้วยตนเอง บางครั้งอาจพาญาติพี่น้องไปเป็นกลุ่ม หรือไปเป็นคณะ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือของชุมชน
วิธีล้างเท้าขอขมา ขอพรจากพ่อแม่
ณ โอกาสอันดี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขอเชิญชวนท่านสาธุชนทั้งหลาย
กระทำการขอขมาพ่อและแม่ ตามธรรมเนียมโบราณ เป็นแสดงกตัญญุตาลาโทษต่อผู้มีพระคุณ
ล้างอาถรรพ์เสริมมงคลชีวิต เพื่อปลดคลายวาระวิบากกรรม ที่บางคน บางท่าน กำลังเผชิญอกุศลวิบาก
อันจะยังผลปลดบ่วงวาระสู่กุศลวิบาก ในการสร้างสม บำเพ็ญตนยิ่งๆ ขึ้นไปกันค่ะ
เตรียมความพร้อม
1. พานธูปเทียนแพ หรือ พวงมาลัย 1 พวง
2. ซอง ใส่ปัจจัยให้พ่อแม่เท่าไหร่ก็ได้ เป็นการซื้อชีวิตใหม่จากบุพการี
3. ชุดใหม่ให้พ่อแม่ นิยมเป็นชุดนอน / อาหารที่ท่านโปรด
4. กะลังมังใบใหม่ใส่น้ำอุ่น น้ำลอยดอกมะลิ หรืออาจจะเป็นน้ำใส่น้ำอบให้หอมๆ
5. ผ้าเช็ดมือ เช็ดเท้าผืนใหม่
6. ผ้าขาวดิบ
7. ถาดใส่ของ (วางทับด้วยผ้าขาวดิบ)
(หากไม่มี/ไม่สามารถเตรียมตามความพร้อมทั้งหลายเหล่านี้ได้
สามาถกระทำเพียงน้อมจิตตั้ง นโมฯ ทำการกล่าวคำขมาลาโทษได้เลย)
ขั้นตอน
1) น้อมจิต ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึง พระคุณพระรัตนตรัย พระคุณพ่อ พระคุณแม่ แล้วกล่าวคำขอขมา ดังนี้
อนันตะ คุณะสัมปันนา ชะเนติ ชะนะกาอุโภมัยหัง
มาตาปิตุนัง วะปาเท วันทา มิ สาทะรัง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา หากลูกล่วงเกินคุณพ่อคุณแม่ ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ลูกขอขมา ขออภัยจากคุณพ่อและคุณแม่ด้วย
ขอให้คุณพ่อและคุณแม่โปรด อโหสิกรรม แก่ลูกด้วยเถิด
นับจากวันนี้ไป ลูกสัญญาว่าจะไม่ประพฤติเช่นที่แล้วๆ มาอีก หากลูกกระทำสิ่งใดไม่ถูกไม่ควรหรือไม่ดีงาม
ขอคุณพ่อ คุณแม่ ได้โปรดว่ากล่าวตักเตือน และสั่งสอนลูกด้วยเถิด วันนี้เป็นวันดี วันมงคล
ลูกขอรับคำพรอันศักดิ์สิทธิ์ จากคุณพ่อคุณแม่เพื่อประโยชน์และความสุขความเจริญรุ่งเรื่องของลูก
ขอคุณพ่อคุณแม่ได้โปรดอวยพรให้ลูกด้วย ขอให้เป็นอภัยทาน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ขอเศษกรรมเหล่านั้นอย่าได้ติดไปในภพเบื้องหน้า นับแต่บัดนี้ไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หรือกล่าวตามนี้…
“กรรมใดที่ลูก (หรือกระผม / หนู) ได้กระทำล่วงเกินต่อพ่อและแม่
จะด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง ทั้งที่ได้ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งในชาตินี้และทุกๆชาติที่ผ่านมา ลูก (หรือกระผม / หนู) ขอขมากรรม ขออโหสิกรรมจากพ่อและแม่
ขอให้พ่อและแม่ให้อโหสิกรรมแก่ลูก (หรือกระผม / หนู) ด้วยเถิด” (ไม่จำเป็นต้องตามนี้ทุกคำก็ได้)
กล่าวจบ
ให้ยก ของที่จัดเตรียมนำไปขอขมาให้ แล้วพ่อและแม่จะต้องกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม”
กล่าวอโหสิกรรม พร้อมให้อวยพรในสิ่งที่ดีๆ ให้กับเรา เมื่อรับคำอวยพรแล้วกราบลงตรงเท้าของท่าน ๕ ครั้ง
( ๕ ครั้ง ในที่นี้ คือ น้อมรำลึกพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณแม่ และพระคุณพ่อ นั้นเอง)
2) การล้างเท้า พ่อและแม่
2.1) เตรียมน้ำมนต์ที่ได้จากการทำน้ำมนต์ของพระสงฆ์แยกอีกถังหนึ่ง ไว้ต่างหาก
2.2) ล้างเท้าท่านให้สะอาดก่อน แล้วให้ท่านนั่งเอาเท้าวางลงในกะละมังใบใหญ่ๆ
เอาน้ำสะอาดราดรดเท้า ให้ท่วมหลังเท้าของท่าน โดยขอให้ท่านกล่าวคำอวยพรให้เรา
มีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง พ้นจากความทุกข์เสียที และเมื่อล้างเท้าพ่อและแม่เสร็จแล้ว
ให้ก้มกราบที่เท้าอีกท่านๆละ5 ครั้ง
3) การอาบน้ำ ด้วยการนำน้ำที่ล้างเท้าพ่อและแม่
3.1) นำน้ำที่ได้ล้างเท้าของพ่อและแม่มาอาบก่อน ในบริเวณกลางแจ้ง ช่วงเวลาเช้าหรือเวลากลางวัน
ให้ราด ตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงเท้า และลงถึงพื้นดิน โดยเป็นการอาบให้ครบองค์ประกอบพร้อมประชุมธาตุทั้งสี่คือ
ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยที่เท้าเหยียบพื้นดิน ร่างกายสัมผัสสายน้ำ สายลม และ แสงแดด
3.2) เมื่ออาบน้ำที่ได้จากพ่อแม่เสร็จแล้ว ต่อจากนั้นให้ตามด้วย การอาบน้ำมนต์ (หากมี)
เป็นทั้งการล้างอาถรรพ์และเสริมมงคลชีวิตในครั้งเดียวต่อจากนั้น เช็ดตัวให้แห้งแล้ว สวมใส่เสื้อผ้าที่เตรียมไว้
*หมายเหตุ
พ่อและแม่ ควรทำความสะอาดบริเวณเท้าและนิ้วเท้าให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าทำพิธีการขอขมากรรมนั้นจะสำเร็จผล
จะต้องประกอบด้วยผู้ขอขมากรรมและผู้ให้อโหสิกรรม ผู้ขอขมากรรม ก็คือเรา เราจะต้องกระทำให้ครบทั้ง 3 ทางคือ
กาย วาจา และใจ วิธีการก็คือ ขอให้พ่อ และแม่ของ เรามานั่งที่เก้าอี้แล้วเราก็เอากะละมังใส่น้ำมา
เอาเท้าพ่อและแม่ (ทีละคน) แช่ลงในน้ำแล้วเอามือล้าง ให้สะอาดจนเสร็จ
แล้วนั่งคุกเข่าพนมมือตั้งใจแล้วพูดออกเสียง แล้วพ่อและแม่จะต้องกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม”
จากนั้นเราก็เอาน้ำล้างเท้าพ่อแม่เรานั่นเหละมาล้างหน้าลูบหัว เป็นอันเสร็จพิธี
วิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นัยว่าเป็นเคล็ดของสวรรค์ และน้ำล้างเท้าบิดามารดานี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ สำหรับลูก โบราณจารย์ถือเคล็ดนี้ เป็นการแสดงความนอบน้อมกตัญญุตาสมาลาโทษกรรม เพื่อชำระจิตที่เคยประมาทพลาดพลั้งไว้ต่อผู้มีพระคุณ ผ่านการคารวะกรรมต่อบุรพาการีผู้เสมือนพระอรหันต์ประจำตัวเรานั่นเอง