จากกรณีกระแสข่าวของดาราวัยรุ่น กัปตัน ชลธร กับอดีตแฟนสาว มิ้ง ศวภัทร จนถึงตอนนี้ฝ่ายครอบครัวของกัปตัน ตัดสินใจนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด หลังจากที่ศาลนัดทั้งคู่เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีความสุดท้ายแล้ว มิ้ง ศวภัทร ต้องยอมจำนน ออกมาเผยความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า “เรื่องที่ตนตั้งครรภ์นั้นไม่เป็นความจริง ที่ทำไปเพราะรักกัปตัน ไม่อยากสูญเสียไป จึงทำอะไรไปโดยไม่คิด อยากขอโทษทุกฝ่ายทั้งกัปตัน พ่อแม่ของกัปตัน รวมถึงหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่มาในวันนี้ก็เพื่อมาขอโทษและยอมรับที่โกหก ตอนนั้นคิดแต่ว่าขอให้ฝ่ายชายกลับมา ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พอกระแสออกไปเห็นนักแสดงหนุ่มโดนด่าทอก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่ ส่วนที่มีคนมาให้กำลังใจ ตนก็ไม่รู้สึกดีใจ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นอะไร”
ภาพจาก twitter@INNNEWS_ENT
โดยหากย้อนกลับไปช่วงที่เกิดกระแสชาวเน็ตออกมาแฉ แฮชแท็ก#มิ้งโป๊ะแตก ขุดเรื่องราวต่างๆออกมาแฉหาหลักฐาน จับผิด จนกลายเป็นเป็นเด็นที่หลายคนติดตามและหนึ่งในวงในที่ออกมาแฉสาวมิ้ง ศวภัทร นั่นก็อคือทวิตเตอร์ @forever62467905 ที่ทำหลายคนสงสัยมาตั้งแต่แรกว่า เจ้าของทวิสเตอร์นี้คือใครกันแน่ เพราะแต่ละข้อมูลที่เจ้าของทวิสนี้นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลชนิดที่เรียกว่าวงในแบบสุดๆ จนในที่สุดวันนี้เรื่องราวทุกอย่างจบลง มิ้ง ศวภัทร ออกมาพูดความจริง เจ้าของทวิสเตอร์ @forever62467905 จึงทำตามสัญญาออกมาเผยตัวตนที่แท้จริงเช่นกันว่าแท้จริงแล้วคือใครกันแน่
โดยเจ้าของทวิตดังกล่าว ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ซึ่งตีความได้ว่า เธอคือแม่ของเจ้าของฉี่ ที่มิ้งของยืมไปตรวจครรภ์ในตอนแรกนั่นเอง และหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ลูกของเธอก็ต้องคลอดก่อนกำหนดถึง 6 สัปดาห์ เนื่องจากความเครียด ทั้งนี้ หากเล่าย้อนถึงตอนให้ยืมฉี่ไป เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเมื่อได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้ข้อสรุปว่า ต้องบอกความจริงให้ทางบ้านฝ่ายชายได้รับรู้ ตนเป็นแม่ไม่สามารถนั่งเฉยๆ ปล่อยผ่านเรื่องราวนี้ได้ หากปล่อยผ่าน ต่อไปเราจะสอนลูกยังไง ลูกจะเชื่อและนับถือเราหรือไม่ จึงเป็นที่มาว่าเมื่อลูกทำผิด แม้จะไม่ตั้งใจก็ต้องแก้ไข
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันใหญ่เกินกว่าตนจะปล่อยให้ลูกแก้ไขตามลำพัง จึงได้มาช่วยจัดการอะไรบางอย่าง เกิดมาไม่เคยเล่นทวิตเตอร์ ก็ต้องมาเล่น สำหรับทวิตเตอร์นี้ ไม่ได้สร้างมาเพื่อทำร้ายใคร เพียงต้องการสื่อสาร ให้สติ และบีบให้ทางฝ่ายหญิงออกมารับความจริง ที่ผ่านมาเหนื่อยมาก ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข้อมูล จะไม่พูดลอยๆ เพราะต้องการสร้างความมั่นใจให้แม่ฝ่ายชาย ว่าเราช่วยได้จริงๆ และอยากทำให้แม่ฝ่ายชายกล้าติดสินใจทำอะไรสักอย่าง
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @forever62467905
ภาพจาก instagram@mmynks