คนโบราณมักจะเลี้ยงแมวสำหรับไล่จับหนูที่มาสร้างรำคาญและเสียหายภายในบ้านเรือน เพราะแมวมีสัญชาตญานเป็นนักล่า มีสัญชาตญาณคล้ายเสือ แต่น่ามหัศจรรย์คือแมวสามารถอยู่ร่วมกับคนได้
มีบันทึกว่า…ที่วัดสมัยพุทธกาลมีการบันทึกพระธรรมไว้ในใบลาน เก็บไว้ในตู้เป็นจำนวนมาก และเป็นระยะเวลานาน ไม่มีการทำความสะอาดตู้พระธรรมที่มีฝุ่นละอองอยู่เต็ม และพระเณรสมัยก่อนมีการบวชเรียนต้องมีการนำพระธรรมเข้าออกตู้เป็นประจำ บางครั้งปิดตู้ไม่มิดมีหนูเข้าไปแทะสร้างความเสียหายกับใบลานที่บันทึกพระธรรมจำนวนมากพระสมัยก่อนจึงได้ให้เณรมาดูแล แต่เนื่องจากหนูออกหากินเวลากลางคืน เป็นเวลาที่เณรหลับ ต่อมามีคนแนะนำให้เลี้ยงแมวไว้จับหนู เพราะแมวนอนกลางวันออกหากินตอนกลางคืนตรงกับเวลาหนูออกหากิน จึงเรียกได้ว่าเณรกับแมวเป็นเวรยามคอยป้องกันตู้พระธรรม คนโบราณบางคนมีความคิดออกอุบายว่า ห้ามฆ่าแมว เพราะมีบาปพอๆ กับการฆ่าเณร
บางความเชื่อ กล่าวว่า…มีพระที่มีญาณอาคมแก่กล้าบอกว่าผู้ที่เป็นเณรมีเหตุเสียชีวิตไปแล้วกลับชาติเป็นแมว มีการห้ามฆ่าแมวเพราะกรรมจะตามสนอง วิญญาณแมวจะอาฆาตพยาบาท ความเชื่อชาวเฮลิโปลิสในประเทศอียิปต์โบราณสอนว่า สุริยะเทพที่ให้กำเนิดดาวเคราะห์ทั้งเก้า มีอำนาจการปกครองทั้งสามโลก คราใดที่สุริยะเทพจะเดินทางไปตรวจการที่ยมโลกจะรวมร่างทั้งเก้าไว้ที่แมว และเชื่อว่าแมวมีเก้าชีวิต จนกลายเป็นวลีเด็ดว่าแมวเก้าชีวิต
สอดคล้องกับคนไทยมีความประหลาดใจว่าแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย เชื่อว่าแมวมีเก้าชีวิต ความเป็นจริงเรื่องราวทั้งหมดอาจเป็นอุบายคนโบราณสอนลูกหลานว่า อย่าฆ่าสัตว์ที่มีคุณประโยชน์ ไม่มีพิษภัยกับคน