กลายเป็นกระแสร้อนแรงให้วิจารณ์กันสนั่นทั้งโซเชี่ยล เมื่อมีคนออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า จะมีการยื่นเสนอปรับแก้กฎหมาย เพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้น กรณีที่คนขับไม่พกใบขับขี่ โดยให้จำคุก 3 เดือน หรือปรับสูงสุดถึง 5 หมื่นบาท ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางการทุจริต แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน ทำเอาผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ ต้องออกมาชี้แจงละเอียดยิบ ข้อมูลจะเป็นอย่างไร วันนี้ PlazaThai มีคำตอบมาบอกกันค่ะ
จากกรณีที่กรมการขนส่งทางบก เตรียมเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมาย ให้รวม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้นสำหรับผู้ไม่พกใยอนุญาตขับขี่นั้น นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 ในฐานะของคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร และท่านรองโฆษกตำรวจ ได้ออกมาชี้แจงในทำนองว่า เป็นการปรับเนื้อหาเพื่อให้มีความทันสมยมากยิ่งขึ้น เหมาะสมกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน
เป็นไปตามหลักความปลอดภัยที่ยอมรับของสากล ยกตัวอย่างสหรัฐอเมริกา ผู้ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ มีโทษปรับเทียบเป็นเงินไทยไม่เกิน 8 แสนบาท หรือจำคุก 5 ปี พร้อมถูกลงบันทึกประวัติตลอดชีวิตอีกด้วย
การปรับแก้กฎหมายนี้ เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งยังมีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อ้างอิงจากข้อมูลงานวิจัย ของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ที่พบว่าผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้มีใบอนุญาติขับขี่ถึง 2 เท่า
ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนส่งเรื่องต่อไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา และการพิจารณาโทษให้อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล จะไม่ได้มีประกาศใช้ได้ในทันที แต่จะต้องเริ่มวางแผน บริหารจัดการ ให้ประชาชนมีใบอนุญาตขับขี่อย่างทั่วถึง ก่อนบังคับใช้จรองจัง
ส่วนเรื่องที่หลายคนเป็นกังวล เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น จะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยหากพบการทุจริต และจะสนับสนุนให้กระบวนการของใบขับขี่ส่งไปที่ศาล ให้ศาลเป็นผู้พิจารณา จุดประสงค์เดียวคืออยากให้ประชาชนปลอดภัย
แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะอย่างไรก็ตามกฎหมายร่างฉบับใหม่ ต้องผ่านการรับฟังเสียงของประชาชนก่อน ตามมาตรา 77 หากมีผู้ไม่เห็นด้วยมากกว่า กฎหมายฉบับนี้ก็อาจจะถูกพับเก็บไปไม่ได้นำออกมาใช้จริง
กฎหมายนี้จะได้ถูกนำออกมาใช้จริงไหม หรือจะเริ่มใช้เมื่อไหร่ ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป และเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ใครยังไม่ได้ทำใบขับขี่รีบไปทำไว้ก่อนดีกว่านะคะ