อีกหนึ่งเรื่องราวสะเทือนใจชาวเนต เนื่องจากผู้ใช้เฟสบุ๊ก อนุพงษ์ วงษ์สูง ได้โพสต์เรื่องราวครั้งนี้ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์และระบุข้อความไว้ว่า
แม่ใจเหี้ยมทะเลาะกับสามี ทำร้ายลูกแท้ๆๆติดตามประสาร บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดระยอง.
ลงพื้นที่ตรวจสอบ!!!! สงสารน้องจัง
#พื้นที่บ้านเพจังหวัดระยอง !!!!
(17 ต.ค. 61) น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายศิวะ ตากาศ นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพ (อนามัยตำบลเพ) ม.4 อ.เมือง จ.ระยอง ว่ามีพลเมืองดีนำ เด็กชายวัย4ขวบ ถูกแม่แท้ๆตีจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่หลายแห่ง รวมถึงที่หน้าผากและศีรษะปูดโนที่เป็นแผลแตก จึงประสานให้ส่งตัวเด็กมารับการรักษาที่ โรงพยาบาลระยอง
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเพ ได้นำเด็กชายที่ถูกทำร้าย ขึ้นรถยนต์ตู้มาส่งที่ รพ.ระยอง พบว่า เป็นเด็กชายวัย4ขวบ มีบาดแผลเป็นรอยแตกตามลำตัวเป็นรอยแตกที่หลังและขาจนเลือดออก และ ยังพบแผลแตกที่หน้าผากจึงรีบนำตัวเข้ารับการรักษาที่ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรี รพ.ระยอง
.
ด้านนางไพฑูรย์ มหาสัทธา ประธานชุมชนแหลมประดู่ ม.3 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้เปิดเผยว่า เป็นผู้นำตัวเด็กที่ถูกทำร้ายส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพ (สถานีอนามัยเพ) หลังพบเห็นเด็กกำลังถูก น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี มารดา ตีด้วยไม้ไผ่ด้ามไม้กวาด ตีจนด้ามไม้กวาดฉีกเป็นเสี่ยงๆ และเห็นเด็กมีอาการที่กำลังจะชักเกร็ง ร้องไห้เสียงดัง เพราะเจ็บจนเกินจะทนไหว จากการตีไม่ยั้งของแม่แท้ๆ ที่เหมือนกำลังคลั่ง จึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มตัวเด็กออกมาจากเงื้อมมือแม่ ก่อนจะรีบพาเด็กเข้ารักษาตัวทันที
.
ต่อมานายศิวะ ตากาศ นักสังคมสงเคราะห์ฯ ได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ ให้เดินทางไปบ้านตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงซึ่งเป็นห้องแถวเช่าเลขที่ 40/55 ซอยแหลมประดู่ ม.3 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ก็พบนายพร (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี อาชีพคนขับเรือรับส่งนักท่องเที่ยวไปเกาะเสม็ด ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ น้องบอย (นามสมมุติ) เหยื่อโหด ได้อุ้มบุตรสาววัย2ขวบออกมาพบเจ้าหน้าที่ พร้อม เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า น้องบอย (นามสมมุติ) วัย 4 ขวบ เป็นลูกเลี้ยงที่ติดมากับภรรยา น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ที่หลบอยู่ในห้องนอน ยอมรับว่า ถูกทำร้ายจริง โดยผู้ที่ทำร้ายคือ น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) แม่แท้ๆของ น้องบอย(นามสมมุติ) ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ไก่ (นามสมุติ) มีอาการโมโห ที่น้องบอย ขอตามพ่อเลี้ยงไปด้วย บอกไม่ให้ไปก็ไม่เชื่อ จึงลงมือใช้ด้ามไม้กวาดตีจนด้ามไม้กวาดฉีก โชคดีที่มีคนข้างบ้านเข้ามาช่วยห้ามและรีบอุ้ม น้องบอย (นามสมมุติ)วิ่งออกไปทันที
.
สำหรับเหตุการณ์ที่ลงมือตีด้วยความรุนแรง ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งตนเองในฐานะพ่อเลี้ยงรู้สึกสงสารเด็กจับใจ พยายามเข้าห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล กลับถูกตีถูกกัดที่บริเวณแขนจนเป็นแผล พร้อมชี้บาดแผลรอยฟันที่แขนให้ดู จึงไม่รู้จะช่วยอย่างไร
.
สำหรับสาเหตุที่ น้องบอย(นามสมมุติ) ถูกตีเกิดจากการที่ชอบตาม เวลาที่ตนเองจะออกไปทำธุระ แม่ไม่ให้ไปก็จะร้องไห้ จนทำให้ น.ส.ไก่ ซึ่งเป็นคนขี้โมโหอยู่แล้ว ลงมือตีอย่างรุนแรงทุกครั้ง บางครั้งรุนแรงถึงขั้นจับศีรษะกระแทกกับผนังปูน โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ห้าม เพราะ น.ส.ไก่ เป็นโรคเครียดที่มีอารมณ์โมโหที่รุนแรง จนกระทั่งได้ตกลงกันว่าจะพา น้องบอย (นามสมมุติ)ไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด เพราะสงสารที่เด็กถูกตีเกือบทุกวัน
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียก น.ส.ไก่ แม่ใจร้าย ที่หลบอยู่ในห้องให้ออกมาพูดคุยกัน แต่ปรากฎว่า น.ส.ไก่ ตะโกนออกมาจากห้องว่า เรื่องในครอบครัวไม่เกี่ยวกับคนอื่น ทางตำรวจจึงให้ทาง นายพร พ่อเลี้ยง เดินเข้าไปเปิดประตูห้องออก แต่ก็ไม่ยอมออกมา จนกระทั่งตำรวจเคาะประตูเรียก น.ส.ไก่ จึงยอมออกมาจากห้อง ในสภาพที่กำลังร้องไห้ พร้อม พูดทั้งน้ำตาว่าลูกไปไหน คนที่พาไปทำไมไม่บอก เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่ารักษาตัวอยู่ที่รพ.ระยอง เพราะถูกตี น.ส.ไก่ แม่โหด ได้ เปิดเผยว่า ที่ตีเพราะชอบร้องไห้ตามพ่อเลี้ยงที่ออกไปทำงานทุกวัน และ แย่งของเล่นของ น้อง บุตรสาววัย2ขวบที่เกิดจากสามีใหม่ ทั้งๆที่ไม่เคยลำเอียงซื้อของเล่นให้เหมือนกันแต่ยังแกล้งโดยการนำของเล่นน้องไปทิ้ง จึงเกิดความโมโหจึงตีไปเพราะทำผิด และ ดื้อร้องตามทั้งที่รู้ว่าพ่อเลี้ยงไปทำงาน
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ นายพร (นามสมมุติ) และ น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) ไปที่สำนักงานเทศบาลตำบลเพ เพื่อ ทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีน.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายศิวะ ตากาศ นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
หลังจากสอบสวน น.ส.นพพนา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้ กล่าวว่า เบื้องต้นจะพาเด็กไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง เพื่อรักษาบาดแผล และ ฟื้นฟูจิตใจของเด็กที่ต้องเจอกับความโหดร้ายเกินกว่าที่เด็กวัย4ขวบจะรับได้ ส่วนเรื่องคดีคงจะต้องมีการหาหลักฐานสอบสวนเพิ่มเติม แต่ก็เป็นคดีครอบครัว ซึ่งจะสรุปอีกครั้ง และจะสอบสวนทางแม่ของเด็กว่าจะนำเด็กไปอยู่กับยายตาที่พ่อเลี้ยงร้องขอหรือไม่ ซึ่งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ต้องไปตรวจสอบว่ายายของเด็กจะสามารถเลี้ยงดูได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถดูได้ ก็ต้องให้มาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง
