วันนี้ PlazaThai มีอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังได้รับความสนใจบนโลกโซเชี่ยล นั่นคือเรื่องของ คุณเมเปิ้ล สาวสวยซึ่งเป็นอีกหนึ่งคน ที่ตกเป็นเหยื่อของสื่อสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่าการถูก Cyberbullying หลังจากที่เธอสวมชุดออกกำลังกายรัดรูป เพื่อเข้าร่วมในงานวิ่งงานหนึ่ง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก บางคนมองว่าไม่เหมาะสม รัดรูปเกินไป บางคนโฟกัสผิดจุด รวมถึงนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย ที่ใช้คำพูดจาบจ้วง พิมพ์ข้อความด้วยความคึกคะนอง จนคุณเมเปิ้ล (สาวในภาพ) ต้องออกมาชี้แจงยาวเหยียด ถึงเหตุผลและที่มาของชุดผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า…
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจ และพูดคุยแนะนำนะคะ
เราขอบคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นห่วง ทุกคำแนะนำ ตลอดจนเพื่อนๆ ที่ร่วมส่งรูปภาพต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐาน เราไม่ได้จะทำเรื่อง ฟ้องร้องหรือลงบันทึกอะไรทั้งนั้น เราก็คือคนธรรมดา ที่ดันโชคไม่ดี มาตกเป็นจำเลย และถูกคุกคามทางเพศ โดยมีความคิดแบบ เธอเป็นผู้หญิง เธอต้องโดนลวนลามทางวาจาและความคิด เพราะเธอแต่งตัวโป๊ (และที่ใส่คือชุดกีฬาค่ะ )
นี่ปี 2018 เราทุกคนมีสิทธิในร่างกาย สิทธิในการแต่งตัว และแน่นอนค่ะ สิทธิในการแสดงความคิดเห็น แต่สิทธิของคุณ เป็นการละเมิดสิทธิของใครอยู่หรือเปล่า อยากให้ลองไตร่ตรองก่อนพิมพ์ ก่อนแสดงวาจาเกรี้ยวกราดค่ะ ทุกคนมีความผิดพลาด เราพลาดที่ไม่รอบคอบ แต่เจตนา เราไม่ได่ส่อไปในทางไม่ดีค่ะ
เรื่องที่ขอชี้แจง ในพื้นที่ของตัวเอง
สำหรับใครหลายคนที่เข้ามาจากวาปไหนก็ตามนะคะ และแอดมินเพจต่างๆ หากได้อ่านค่ะ
1. กางเกงที่ใส่ เป็นสีดำค่ะ ยี่ห้อ Jaggad เป็นกางเกง Women”s Symmetry Full Length Leggings สำหรับใส่ออกกำลัง เทรนนิ่ง เป็นแบรนด์สำหรับออกกำลัง ปั่นจักรยาน เนื้อผ้าแนบ ไปกับบอดี้ ตอนใส่เวลาจริง ไม่ได้มีแสงเงา และเห็นความ… ชัดขนาดในรูป เห็นแต่พุง ที่ปลิ้นออกมาค่ะ บางคอมเม้นจากพี่pacer ในงาน ต้องขอบคุณมากๆนะคะ ที่ยืนยันอีกเสียง ว่างของจริงไม่ได้เห็นชัดแบบนี้
และ เราไม่ได้ใส่กางเกงเสริมใดๆนะคะ เราแค่อวบค่ะ ผู้หญิงหลายท่านน่าจะเข้าใจในปัญหาของความอวบนี้ การหากางเกงที่ไม่ยื้ม ก็จะค่อนข้างยาก มีรูปจริงจากกล้องที่ไม่ปรับแสง ด้านล่างคอมเม้นท์นะคะ
2. ที่เราใส่กางเกงขายาว ไม่ใส่ขาสั้น เพราะเราไม่มั่นในทรงขาของตัวเองค่ะ เราเตี้ย ขาสั้น จึงตัดสินใจใส่ขายาว แค่นั้นค่ะ ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงรูปที่ออกมาหลุดแบบนี้ อันนี้จึงเป็นความผิดพลาดของเราเองค่ะ ที่ไม่ได้เซฟ และงานนี่เป็นงานแรกค่ะ
และเรื่องจริงคือ เราได้ทำการบ้านเรื่องหาใส่ขาสั้นและที่รัดขามาไว้แล้ว เพราะมันร้อนค่ะ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนหลายอย่าง สำหรับงานแรก
3. เราไม่ใช่ใครที่ไหน เราคือคนธรรมดา ที่เพื่งหันมาออกกำลังด้วยการวิ่ง และลงงานวิ่งค่ะ ก่อนหน้านี้เราเป็นสายปั่น (ในร่ม ) และโยคะ อื่นๆอีกมากมาย ไม่เคยมาลงงาน ทำให้อาจไม่ได้ทราบถึงข้อจำกัดต่างๆ สุดท้าย ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจ และคำแนะนำตักเตือนจากทุกคน ทั้งเพื่อนนักวื่ง ช่างภาพ และพี่ๆที่เข้ามาแนะนำนะคะ
งานนี้เป็นงานวิ่งงานแรกของเมเปิ้ล อาจมีผิดพลาด และก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจทำให้คนวิ่งหลายคนมองไม่ดี งานหน้าปรับปรุง และเจอกันแน่นอนค่ะ จะปรับทั้งคอสตูม และ Pace ด้วย ยังไงแนะนำ และชวนไปซ้อมวิ่งได้นะคะ
ก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่าตัวเองจะตกเป็นเป้าหมายโดน Bully ได้ขนาดนี้ จากการใส่ชุดออกกำลัง
ยิ่งเข้าไปอ่าน สภาพจิตใจยิ่งย่ำแย่ “สิทธิเสรีภาพทุกตารางนิ้วกันจริงๆ”
ภาพชุดแรกที่แชร์ ก็ไม่ได้มาจากการโพสต์ของเราเลย เห็นแต่แรกแล้ว ว่ามุมนั้น ห่อหมกชัดมาก
น้องสาวแคปส่งมาให้แต่แรก ว่านั้นจู๋ หรืออะไร แบบขำๆ (เพราะด้วยทั้งชุดที่อาจไม่เหมาะกับการวิ่ง ชุดเปียก เพราะฝนตก แนบเนื้อ แสงเงาสะท้อนอะไรก็แล้วแต่)
คนที่เอารูปไป แล้วนำไปแชร์ จะเป็นเพราะด้วยแสดงความคิดต่าง นำมาเป็นข้อคิดเห็น ตักเตือน คุณคงไม่คิดว่า เจ้าของภาพ จะโดนกระทำ หรือคุกคามเช่นไรบ้างก็บอกว่า นี่เป็นสิ่งที่เราตัองยอมรับ เป็นสิ่งที่ต้องรับให้ได้ เพราะแต่งเแบบนี้เอง
เรายังมีความคิดแคบๆ เพื่อกดคนอื่น ให้ตัวเองถูกต้องกันอีกหรือ เราไม่ได้ต้องการให้คนทุกคนเข้าใจเราทั้งหมด
แต่การให้เกียรติกัน และการเคารพในการกล่าวถึงหรืออ้างอิง เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำ และไม่ควรเพิกเฉย หลายเพจอ้างว่า ให้เราฟ้องเลย แจ้งความเลย เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าผลสุดท้าย ต่างก็เสียเวลา …
เพราะบ้านเรายังคงเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา กระแสของนักเลงคีย์บอร์ด เดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวเรื่องก็ซาลง เดี๋ยวคนก็ลืม เราไม่มีทางเข้าใจความรู้สึก จนกว่าเราจะโดนกระทำเสียเองวันนี้ได้รู้แล้ว นอกจากบทเรียนเรื่องเครื่องแต่งกายแล้ว
บทเรียนที่สอง คือโพสต์ต่างๆเหล่านี้ คือเครื่องแสดงความสูงต่ำของจิตใจคน คือสัญญะของความกดขี่ ซึ่งเราจะไม่ทำแบบนี้กับใคร (อย่าทำแบบนี้ ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม เพลงพี่เบิร์ดลอยมา) วาทกรรมต่างๆเหล่านี้ล้วน แสดงถึงอัตลักษณ์ของตัวผู้โพสต์ ผู้แชร์ต่อทั้งสิ้น สิ่งที่สังคมและเราเองได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและประสบการณ์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องการแต่งตัวที่ต้องรัดกุมให้มากขึ้นแล้ว
เราอยากให้ทุกคน ได้ตระหนักและเรียนรู้จักคำว่า “สิทธิสตรี – ( women rights) “และสิทธิในเรือนร่าง(autonomy) ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์เพียงเพื่อความคะนองปาก
หากแต่ควรเป็นการวิจารณ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพและการให้เกียรติกันทางวาจาและการกระทำ เราควรตระหนักดีว่าการถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแต่งกายเป็นอีกประเด็น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
“ไม่ว่าผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อจะแต่งตัวอย่างไร …การถูกคุกคามทางเพศทั้งทางกาย วาจา และการกระทำนั้นไม่สมควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น” หากเราต้องเรียนรู้ที่จะเคารพความเป็นมนุษย์และไม่ล้ำก้าวเขตในสิทธิส่วนตนของผู้อื่น
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าด่วนตัดสินใครจากภาพที่เห็น เพราะเขาอาจมีเหตุผลมากมายที่คุณไม่รู้ ฝากถึงนักเลงคีบอร์ดทั้งหลายด้วยว่า ก่อนจะพิมพ์อไรลงไป ควรคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นด้วย เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงวุฒิภาวะ และความคิดของตัวคุณเอง
ภาพจาก Phornnipha Wanichwisedkul