กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 41 จังหวัด รับมือน้ำไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จากภาวะฝนตกหนัก กำชับพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนข้อมูลประชาชนอย่าใกล้ชิด นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลายจังหวัดมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องกันหลายวัน กอปรกับแม่น้ำหลายสายเริ่มมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ปภ. จึงประสาน 41 จังหวัด ในภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออก – เฉียงเหนือ และภาคใต้
ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร และพิจิตร
ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว ชลบุรี และระยอง
ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ
และ ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และภูเก็ต
รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฝ้าระวังและติดตามปริมาณน้ำฝนรายวัน ปริมาณน้ำฝนสะสม ระดับน้ำในลำน้ำ และพื้นที่ลาดเชิงเขาอย่างใกล้ชิด ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้เฝ้าระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง อย่างเด็ดขาด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในระยะนี้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ ปภ.เขต สำนักงาน ปภ.จังหวัด สำนักงาน ปภ.จังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง