เหตุการณ์สุดช็อกวงการฟุตบอลระดับโลก เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ประสบอุบัติเหตุตกข้างสนามแข่งขัน หลังจบเกมเลสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด คืนวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
ประกอบด้วย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา พร้อมด้วย นุสรา สุขหน้าไม้ (อดีตนางงาม-นางเอกช่อง7) , กวีพร พรรณแพร ที่เป็นผู้โดยสาร เป็นทีมงานหรือสตาฟ ของเจ้าสัววิชัย และนักบินอีก 2 ราย คือ เอริก สวาฟเฟอร์ และ อิซาเบลา โรซา เลโควิช
โดยเจ้าสัววิชัย ทำธุรกิจต่างๆ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ และได้เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบกลุ่มธุรกิจ คิง เพาเวอร์ พบว่า คิง เพาบริษัทในเครือทั้งหมด 6 บริษัท
ซึ่งวันนี้เราจะยกตัวอย่างรายได้ ที่ทำกำไรได้มากที่สุด 2 อันดับได้แก่ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2538
ดำเนินธุรกิจขายปลีกและร้านค้าปลอดภาษีอากรบริการจัดการ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้ ปี 2558 รายได้ 42,443 ล้านบาท กำไร 5,575 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 50,884 ล้านบาท กำไร 5,292 ล้านบาท ปี 2560 รายได้ 56,151 ล้านบาท กำไร 3,944 ล้านบาท
บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (Duty Free ที่ AOT) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2539 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรให้บริการจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ
ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้ ปี 2558 รายได้ 33,034 ล้านบาท กำไร 2,984 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 32,680 ล้านบาท กำไร 1,636 ล้านบาท ปี 2560 รายได้ 35,633 ล้านบาท กำไร 1,838 ล้านบาท รวมรายได้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี อยู่ที่ 101,347 ล้านบาท
ส่วนกำไรรวมตลอด 3 ปีอยู่ที่ 6,458 ล้านบาท แต่หากรวมรายได้ทั้ง 6 บริษัทในเครือของคิง เพาเวอร์ จะพบว่ารายได้เฉพาะปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 103,644 ล้านบาท กำไร 7,692 ล้านบาท