9912 พระเนื้อผงผสมว่าน หลวงปู่จัน่ทร์ วัดป่าข่อย สุโขทัย ยุคก่อนปี 2500 83

฿250.00
รายละเอียดสินค้า

วันที่ 2 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าข่อย ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย มี “หลวงปู่จันทร์” อดีตเจ้าอาวาสเป็นพระเกจิอาคมขลัง ชื่อเสียงโด่งดัง เกิดในยุคสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และมรณภาพในช่วงสมัยรัชกาลที่ 9 สิริรวมอายุ 104 ปี แม้ว่าท่านจะมรณภาพมานานถึง 12 ปีแล้ว แต่ทว่าสรีระสังขารกลับไม่เน่าเปื่อย และมีเส้นผมขึ้นยาวบนศีรษะ สร้างความอัศจรรย์ใจแก่บรรดาสานุศิษย์อย่างมาก

 

 
 
 พระมหาสกุล  โกสโล เจ้าอาวาสวัดป่าข่อยและเจ้าคณะตำบลวังพิณพาทย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “หลวงปู่จันทร์” หรือนายจันทร์  นิ่มนุ่ม ชาวสวรรคโลก เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2445 อุปสมบทที่วัดอนงคารามฯ กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จนฺทโร” ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดอนงคารามฯ และฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาอาคมกับ “หลวงปู่ศุข” วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และ “หลวงพ่อปาน” วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์จากโหรหลวง ก่อนมาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าข่อยในปี พ.ศ. 2470 ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ราชทินนามว่า “พระครูจันทโรภาส” และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังไม้ขอน ก่อนท่านจะมรณภาพเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2548 สิริรวมอายุ 104 ปี โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสยาวนานถึ

พระมหาสกุล กล่าวว่า เมื่อครั้งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้ส่งตัวแทนมานิมนต์ “หลวงปู่จันทร์” วัดป่าข่อย จ.สุโขทัย พร้อมกับ “หลวงพ่อจง” วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา และ “หลวงพ่อจาด” วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทั้ง 3 ท่านนี้เป็นพระสุปฏิปันโน มีเวทมนต์คาถาอาคมขลัง จึงนิมนต์ให้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินโปรยทรายเสกคาถาลงมา เพื่อป้องกันภยันตรายให้แก่บ้านเมืองอีกทางหนึ่งด้วย

ปัจจุบัน “หลวงปู่จันทร์” แม้ว่าท่านจะมรณภาพมานานถึง 12 ปีแล้ว แต่คุณงามความดีและวัตรปฏิบัติอันงดงามยังคงอยู่ อีกทั้งสรีระสังขารก็ไม่เน่าเปื่อย สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ประชาชนและบรรดาสานุศิษย์อย่างมาก จึงมีการเก็บรักษาร่างของท่านไว้ในโลงแก้ว ตั้งในศาลาจตุรมุข “หลวงปู่จันทโรภาส” วัดป่าข่อย ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพร พร้อมเก็บรักษารถยนต์โบราณของหลวงปู่จันทร์ให้คนรุ่นหลังได้ชมอีกด้วย

 

 

 

ทั้งนี้ “หลวงปู่จันทร์” นอกจากจะเป็นพระสุปฏิปันโน มีเวทมนต์คาถาอาคมขลัง ชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ท่านยังมีความรู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคด้วยสมุนไพรไทยอีกด้วย ทำให้วัดป่าข่อยได้รับอนุญาตจัดตั้งเป็นสำนักพยาบาลสาขาวัดโพธิ์ ในชื่อ “จันทโรภาสแพทย์สยาม” เพื่อเผยแพร่ความรู้และรักษาพยาบาล สำหรับ “วัดป่าข่อย” สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2397 เดิมชื่อ “วัดโคกขี้แร้ง” ต่อมาสมัยหลวงพ่อจอม (คร้าย) ซึ่งเป็นพระของเจ้าจอมมารดาแพ ในรัชกาลที่ 4 มาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ก็ได้ทำการบูรณะก่อสร้างวัด เปิดสอนหนังสือไทย หนังสือขอม จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดจอมป่าข่อย” กระทั่งหลวงพ่อจอมมรณภาพ วัดนี้ก็ทรุดโทรม จนถึงปี พ.ศ. 2463 ทางวัดได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ โยกย้ายเสนาสนะต่างๆ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดป่าข่อย” โดยมีเจ้าอาวาส 3 รูป คือ หลวงพ่อจอม (คร้าย) , หลวงปู่จันทร์ (พระครูจันทโรภาส) ระหว่างปี พ.ศ. 2470-2548 และพระมหาสกุล โกสโล ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน



ชัวร์ำพระ.คอมsurepra.com
สินค้าแนะนำ
บทความ